“นายกฯ” ห่วงทรัพย์สินผู้ประสบอุทกภัย กำชับจนท.ตรวจตราใกล้ชิด เตือนมิจฉาชีฉวยโอกาสลักทรัพย์ซ้ำเติมความเดือดร้อน โทษหนักกว่าปกติ อุตฯเตือน 9-14 ต.ค. อากาศแปรปรวนประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักภาคใต้
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งยังคงมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในหลายจังหวัด และจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและอุทกภัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้มีข้อสั่งการกำชับส่วนราชการในพื้นที่ ให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของงาน มุ่งตอบสนองความเดือดร้อนและความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
นายกฯ ได้รับฟังแผนการปฏิบัติ และการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยแล้ว ซึ่งได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วบางส่วน ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังน้ำท่วมเช่น ก่อนฤดูฝน ได้มีการเตรียมการพร่องน้ำ ติดตามสถานการณ์น้ำฝนและพายุ ขุดลอกคูคลอง ขจัดสิ่งปฏิกูล วัชพืช ผักตบชวา เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางทางน้ำ แผนเผชิญเหตุ แผนอพยพ ระบบการสื่อสารกับประชาชน ในช่วงระหว่างเกิดน้ำท่วม
นอกจากนี้ ได้ตั้งศูนย์บัญชาการ บริหารจัดการอย่างมีเอกภาพ บูรณาการ อพยพผู้คนเข้าพื้นที่ปลอดภัย บริหารอาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค สุขภาพอนามัยของประชาชน เร่งระบายน้ำตามจังหวะฟ้าฝน หลังน้ำท่วม เร่งฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน ถนน สะพาน ประปา ไฟฟ้า เป็นต้น โดยการดำเนินการทั้งหมดนี้นายกรัฐมนตรีทราบดีว่าได้มีการเตรียมการและดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายกฯ ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด และห่วงใยทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมั่นตรวจตราดูแลอย่างเข้มข้น จึงฝากเตือนมิจฉาชีพอย่าฉวยโอกาสลักทรัพย์หรือขโมยตามบ้านเรือนผู้ประสบภัย กรณีนี้ผู้กระทำจะได้รับโทษหนักกว่าปกติเพราะถือว่าเป็นการไปซ้ำเติมผู้ที่กำลังเดือดร้อน แม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะจัดกำลังออกตรวจอย่างเข้มงวดกวดขัน แต่ก็ยังพบผู้ที่ไม่มีจิตสำนึกฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่ทุกข์ยากเช่นนี้ หากพบการกระทำเช่นนี้รัฐบาลยืนยันจะให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา โพสต์ข้อความระบุว่า ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้” ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 09 ต.ค.65 ในช่วงวันที่ 9-14 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 911 ต.ค. หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิลดลง รวมถึงดูแลสุขภาพไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 911 ต.ค.
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 10 ต.ค. ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต วันที่ 11 ต.ค. ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงวันที่ 9 14 ต.ค.