ภาพแห่งการหลั่งไหลเข้าไปห้อมล้อมอยู่โดยรอบการเยือนชุมพรของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มีรากฐานมาอย่างไร
เพราะ “บารมี” ของ “ลุงตู่”
หรือเพราะเส้นสายอันแข็งแกร่งและมั่นคงซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติได้มาจากการดึงคนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา
ไม่ว่า “พีระพันธุ์” ไม่ว่า “ไตรรงค์”
ในเบื้องต้นสามารถตอบได้เช่นนั้น เป็นอิทธิพลจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มานับแต่เป็น “นายกรัฐมนตรี”
และก็เป็นผลจาก “บารมี” ของ “ประชาธิปัตย์”
เพียงแต่มิได้เป็นบารมีในแบบของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หรือบารมีในแบบของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
หากเป็นบารมีจาก “บ้านใหญ่”ใน “ชุมพร”
การทำความเข้าใจต่อบารมีของบ้านใหญ่ในชุมพรมีความซับซ้อนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการทำความเข้าใจต่อบารมีของบ้านใหญ่ในพื้นที่อื่น
ไม่ว่า “สุราษฎร์ธานี” ไม่ว่า “สงขลา”
โดยอิทธิพลที่ดำรงอยู่เด่นชัดอย่างยิ่งเป็นการสะสมมาอย่างยาวนานและรวมศูนย์ไปยังพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน
ตั้งแต่ยุค “พะลัง” ตั้งแต่ยุค “อ่อนละมัย”
แต่พลันที่ตระกูล “จุลใส” ผงาดขึ้นอิทธิพลและบารมีก็ดำเนินไปในลักษณะ “รวมศูนย์” อย่างชัดเจน
ทั้งของ “จุลใส” ทั้งภายใน “ประชาธิปัตย์”
รูปธรรมอันยอดเยี่ยมอย่างยิ่งสัมผัสได้จากการเคลื่อนไหวผ่านมวลมหาประชาชนแห่ง “กปปส.” ว่าดำเนินไปอย่างไร
นี่คืออิทธิพลอันสัมพันธ์อยู่กับ “ลุงกำนัน”
ภาพ 1 ภาพซึ่งสามารถตอบคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี คือ ภาพที่คนในตระกูล “จุลใส” ถือปืนอูซี่คอยคุ้มกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เป็นเหตุการณ์ก่อน “ชัตดาวน์”
ขณะเดียวกัน ก็เป็นเหตุการณ์ซึ่งสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของเหล่า “กปปส.” ในลักษณะปูทางและสร้างเงื่อนไข
ก่อน “รัฐประหาร” เดือนพฤษภาคม 2557
ภาพที่เห็นในชุมพรเมื่อวันเสาร์ที่ 28 มกราคม จึงเสมอเป็นเพียงการจำลองเหตุการณ์ ในลักษณะเดียวกัน
จาก “กทม.” มายัง “ชุมพร” เท่านั้น
ความปลาบปลื้มบนสีหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่แตกต่างไปจากความปลาบปลื้มของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เพียงแต่เป็นที่ “ชุมพร” เพียงแต่เป็นที่ “กทม.”
หากทำความเข้าใจต่อภาพจากชุมพร หากทำความเข้าใจ 30 ต่อภาพจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็จะเกิดความเข้าใจ
เข้าใจใน “โครงสร้าง” ของ “รวมไทยสร้างชาติ”
เข้าใจในกระบวนการ “ไปต่อ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าสัมพันธ์กับ “กปปส.” สัมพันธ์กับ
“ลุงกำนัน” อย่างไร
เพียงแต่ครานี้ต้องสู้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น