รวบทีมฆ่าไต๋ก๋งเรือ ขณะออกหาปลากลางอ่าวไทย พฤติการณ์เหี้ยมผิดมนุษย์ ขับเรือพุ่งชน ก่อนชักปืนสั้น ลูกซอง ระดมยิงร่างพรุน ปล่อยลอยคอลูกเรือพม่า 5 คน กลางทะเลหวังฆ่าปิดปาก
วันที่ 27 ก.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก 5 บก.ป. พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ สว.กก.5 บก.ป. จับกุม นายหาหรือแดง วิลารูป อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 86/2550 ลงวันที่ 9 พ.ค.2550 ข้อหา “ร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,ซ่อนเร้น อำพรางศพ, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต, พกพาอาวุธปืนและอาวุธมีดติดตัวไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ได้ที่ สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2550 ขณะที่ นายอนันต์หรือเล็ก (สงวนนามสกุล) ไต๋เรือ และเจ้าของเรือประมง พร้อมกับลูกเรือสัญชาติพม่า 5 คน นำเรือออกหาปลาที่น่านน้ำหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 3 คน ขับเรือประมงอวนลากลำหนึ่ง พุ่งเข้าชนบริเวณกลางลำ ก่อนบุกขึ้นมาบนเรือใช้อาวุธปืนลูกซองและปืนสั้นถล่มยิงใส่นายอนันต์จนร่างพรุนเสียชีวิตคาที่ แล้วนำศพมัดมือมัดเท้าโยนทิ้งทะเล จากนั้นจึงเปิดก๊อกใต้ท้องเรือปล่อยน้ำทะลักเข้ามาให้เรือจมเพื่อหวังฆ่าลูกเรือพม่าที่เหลืออีก 5 คน ปิดปากอำพรางคดี ก่อนโดดกลับเรือตัวเองแล้วหลบหนีไป แต่เคราะห์ยังดีขณะที่ลูกเรือพม่าทั้ง 5 คนกำลังลอยคออยู่กลางทะเล ได้มีเรือประมงผ่านมาเห็นจึงให้การช่วยเหลือกลับขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตามหลังกลับขึ้นฝั่งได้ลูกเรือะทั้ง 5 คน ได้รีบนำเรื่องไปแจ้งให้กับครอบครัวของนายอนันต์ทราบ จนมีการเข้าแจ้งความที่ สภ.ละแม จ.ชุมพร พร้อมกับสืบสวนขยายผลจนทราบตัวกลุ่มคนร้าย โดยมีมูลเหตุการฆ่าโหดมาจากปมขัดแย้งเกี่ยวกับการแย่งลูกเรือชาวพม่าระหว่างผู้ตายกับไต๋เรือประมงรายหนึ่ง ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายเกิดไหวตัวทันชิงหลบหนีไปซ่อนตัวตามพื้นที่ต่างๆยากต่อการติดตามจนคดีล่วงเลยมานานกว่า 14 ปี กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาทราบว่านายหา ผู้ต้องหารายนี้ หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ได้หลบหนีมาทำงานเป็น รปภ. อยู่ในพื้นที่ กทม. จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายหา ให้การรับสารภาพ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.ละแม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป