วันที่ 8 สิงหาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมขบวนคาราวานรับ “ถุงน้ำใจ ปชป. ส่งผู้รอเตียง” และตรวจเยี่ยมราคาสินค้า ณ ห้างแม็คโคร สาขาสามเสน กรุงเทพฯ ว่าห้างสรรพสินค้าช่วยนำมังคุดจากภาคใต้ ที่มีผลผลิตออกจำนวนมากในขณะนี้ มาขายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นช่องทางหนึ่งช่วยระบายตลาดภายในประเทศ ช่วยให้ราคาหน้าสวนที่เกษตรกรขายได้ราคาดีขึ้น เช่น แม็คโคร รับซื้อหน้าสวนมังคุดกิโลกรัมละ 17 บาท นอกจากนี้ มีหลายฝ่ายให้ความร่วมมือทั้งรัฐและภาคเอกชน เช่น ปั๊ม ปตท. บางจาก PT เติมน้ำมันแถมมังคุดฟรี บริษัท ไปรษณีย์ไทย ช่วยส่งตรงถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยกรมการค้าภายในสนับสนุนกล่องบรรจุฟรี
“ทั้งนี้ 2 มาตรการทำให้การรับซื้อมังคุดเพิ่มขึ้น คือ 1.กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการเชิงรุกนำห้างสรรพสินค้า รวมทั้งซัพพลายเออร์ช่วยรับซื้อทำสัญญาล่วงหน้าเพื่อซื้อมังคุดจากเกษตรกร ทำสัญญาไปแล้ว 20,000 ตัน และ 2.จัดหาล้งไปรับซื้อในพื้นที่ อย่างมังคุดภาคตะวันออกจำนวนมาก ก็เร่งประสานให้ล้งจำนวนมากช่วยรับซื้อ ทำให้ราคามังคุดคัดเกรดกิโลละ 100-200 บาท ต่อมาจังหวัดในภาคใต้เดือนกรกฎาคมต้องล็อกดาวน์พอดี ทำให้ล้งไปปักษ์ใต้ไม่ได้ จึงประชุม 3 ฝ่าย คือ ภาครัฐ ล้ง และผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช จ.ชุมพร จ.จันทบุรี เพื่อแก้ปัญหาและประสานล้งจากจันทบุรี ไปรับซื้อที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด รายงานว่ามีกว่า 200 ล้ง ทำให้การระบายมังคุดลื่นไหลขึ้น ราคามังคุดคละเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 5-7 บาท เป็น 13-15 บาทแล้ว พร้อมกับขอความร่วมมือทุกจังหวัด ที่มีการขนส่งมังคุด กระจายไปยังทั่วประเทศ ให้อำนวยความสะดวกให้สามารถผ่านด่านได้โดยสะดวกภายใต้ปฏิบัติการตามกติกาโควิดของแต่ละพื้นที่” นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น การล็อกดาวน์ช่วงแรกๆ ประชาชนอาจตื่นตระหนกกังวลบ้างที่จะเข้าไปซื้อมากกว่าปกติ แต่ตอนนี้คลี่คลายลงบ้าง และระยะสั้นกว่าล็อกดาวน์ช่วงต้นปี จนสินค้าชั้นวางไม่มีสินค้าหมดลง ขณะนี้ผู้บริโภคเริ่มเรียนรู้เข้าใจว่าของไม่ต้องกังวลว่าจะขาด อย่างผู้บริหารแม็คโครยืนยันว่าสินค้าสามารถเติมเต็มได้เพียงพอ เช่น ไข่ไก่ ที่มีบางช่วงเติมไม่ทัน และราคาสูงขึ้นบ้างเพราะผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ทำให้ไข่ไก่เบอร์ 3 อยู่ที่ฟองละ 3.50 บาท หรือหมูแพง ราคาก็ลดลงแล้ว โดยได้สั่งการพาณิชย์จังหวัด ออกสำรวจและใช้กฎหมายเคร่งครัด หากค้ากำไรเกินจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาปรับไม่เกิน 10,000 บาท/ครั้ง ส่วนที่กระทรวงพาณิชย์อาจดูแลได้ยาก คือ ขาดแรงงาน อาจมีผลต่อสินค้าอุปโภคบริโภคติดขัดในบ้างพื้นที่
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่