เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองร้อย อส.จ.ชุมพร ที่ 1 นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายพิทักษ์ พิศสิริวัฒนสุทธิ์ ปลัดจังหวัดชุมพร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ป้องกันจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร (ชุด ฉก.โชคชัย) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.จังหวัดชุมพร เข้าร่วมแถลงข่าว
นายธีระ กล่าวว่า จังหวัดชุมพรเข้มงวดกวดขันเรื่องยาเสพติดเป็น 1 ใน 5 วาระเร่งด่วนคือ “ห้ามผ่าน ห้ามขาย ห้ามเสพ” เพราะเป็นจังหวัดลงสู่ภาคใต้ การขนย้ายยาเสพติดจากภาคอื่นต้องผ่านชุมพรเป็นจังหวัดแรก เมื่อพบการกระทำความผิดหรือมีเบาะแสก็จะดำเนินการจับกุมทันที ส่วนในพื้นที่ทุกอำเภอได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดอย่างเข้มแข็ง เพื่อไม่ให้มีผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่
หากทราบข้อมูลหรือเบาะแสเจ้าหน้าที่ก็จะมีการจับกุมทุกราย ซึ่งงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จังหวัดชุมพรได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคมนี้จับยาไอซ์ได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัม ยาบ้าประมาณกว่า 6 ล้านเม็ด รวมมูลค่าเกือบ 3 พันล้าน ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่เข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ชุด ฉก.โชคชัย ทหาร ตำรวจ ที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน
ด้านนายพิทักษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการจับกุม นายฉัตรชัย อาจพินิจ หรือ เต้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 5,757 เม็ด ยาไอซ์ 52.82 กรัม เมื่อสอบสวนขยายผลก็ทราบว่า วันที่ 8 สิงหาคม 2564 และวันที่ 12 สิงหาคม 2564 จะมีการส่งยาเสพติดให้ผู้ค้าใน จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ชุด ฉก.โชคชัย จึงวางแผนจับกุม เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 สามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 8,000 เม็ด โดยบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งได้นำไปวางไว้หน้าอู่ซ่อมรถ ซอยรุ่งเรือง ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมืองชุมพร เนื่องจากผู้ค้าไหวตัวทันไม่สามารถจับกุมตัวได้
ต่อมาวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ได้ตรวจยึดของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 2 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร ซึ่งของกลางทั้ง 2 รายการดังกล่าว ได้ส่งมาจากผู้ค้าในประเทศลาว โดยนำมาส่งบริษัทขนส่งใน จ.นครพนม ก่อนส่งต่อมา จ.ชุมพร จนเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึด และจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่