วันที่ 21 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงาน การค้นหากำลังพลที่สูญหายจากเหตุ เรือหลวงสุโขทัย อับปาง ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในวันที่ 3 วัน ทุกหน่วยทำงานกันอย่างเต็มที่ ทางกองทัพเรือ ใช้ เรืองหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงภูมิพล และอากาศยาน ตลอดจนเรือประมง เจ็ทสกีและเครือข่ายต่าง ๆ ได้ร่วมกันตรวจสอบแนวชายฝั่งตั่งแต่ อ.บางสะพาน เรื่อยลงไปจนถึง จ.ชุมพร ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร ว่ามีชาวประมงพบแพชูชีพลอยอยู่กลางทะเลบริเวณใกล้กับเกาะพิทักษ์ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 8 นาย นำเรืออุทยานฯ ออกไปตรวจ
ซึ่งพบว่าเป็นแพยางสีส้มขนาดใหญ่มีหลังคายางปิดคลุม กันฝนกันแดดอย่างดี ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่พบคนหรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ ในแพชูชีพดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานทางหน่วยทหาร จึงทราบว่าเป็นแพชูชีพที่ถูกส่งจาก ฮ.S-70B ในคืนวันที่ 19 ธ.ค. 65 แต่เนื่องจากกระเเสคลื่นลมแรงทำให้พัดแพออกจากห่างจากจุดผู้ประสบภัยและไม่สามารถว่ายน้ำไปขึ้นแพได้ จึงได้ลากนำเข้าใกล้ฝั่งที่สุดเพื่อให้คนบนฝั่งได้ออกมารับช่วงพาเกยไว้บนฝั่ง หลังจากนั้นได้นำเรือออกตระเวนค้นหาตามเกาะแก่งต่าง ๆ เพื่อหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางต่อไป อย่างไรก็ตามคลื่นลมในทะเลยังสูงกว่า 2 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยอย่างที่สุด
ในขณะที่เฟซบุ๊กของ นายทรงพล สุขสมบูรณ์ หรือ ผู้ใหญ่เบียร์ ผู้ใหญ่บ้านป้อมหมู่ 1 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดบางบาล เป็นหนึ่งในทีมที่ร่วมค้นหาน้องมาวิน ที่จมน้ำสูญหาย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เตรียมออกเดินทาง เรือหลวงสุโขทัย เมื่อผู้ใหญ่ไฟเขียวผมก็พร้อมแหกไฟแดง” เพื่อเดินทางร่วมภารกิจค้นหาพลเรือที่สุญหายกลางอ่าวไทย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ผู้ใหญ่เบียร์ ผ่านทางวิดีโอคอล ระบุว่า ภารกิจค้นหาผู้สูญหายในครั้งนี้ได้จัดเตรียมโดนค้นหาตรวจจับความร้อนมา 3 ตัว และโดนอากาศที่สามารถตรวจจับความร้อนอีก 3 ตัว พร้อมกับทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยา ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ ทีมมังกรชลบุรี ทีมดำน้ำจากปอเต็กตึ้งสุวรรณภูมิ และบริษัทเซาเทอน์มารีนสุราษฎร์ธานี รวมกำลังพล 30 นาย เข้าร่วมในการภารกิจค้นหาผู้สูญหายในครั้งนี้ โดยได้รับการสนับสนุนเรือลาดตระเวนขนาดใหญ่จากกรมประมง 1 ลำ
นอกจากนี้ยังมีเรือเล็กและเรือเร็วที่เตรียมมาอีก 4 ลำ ซึ่งต้องดูสภาพอากาศอีกทีว่าเป็นอย่างไร แต่การค้นหาจะใช้เรือใหญ่เป็นหลัก เมื่อถึงพื้นที่จะทำการประชุมกับทีมในพื้นที่อีกทีเกี่ยวกับรายละเอียดภารกิจในการค้นหาผู้สูญหาย ส่วนอุปสรรคในการค้นหาผู้สูญหายในเครื่องนี้จะต่างจากการค้นหาน้องมาวินในเขื่อน เนื่องจากเขื่อนเป็นน้ำที่นิ่งแต่ลึก แต่ในทะเลจะมีขึ้นใหญ่และพื้นที่กว้างมาก ส่วนตัวคิดว่าถ้าช่วยกันหลาย ๆ ฝ่ายก็น่าจะค้นหาผู้สูญหายได้เร็วยิ่งขึ้น