ยกมือไหว้พ่อครั้งสุดท้ายเป็นลาง ก่อนขับจยย.ชนกับรถยนต์ดับ

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 1 ต.ค.64 พ.ต.ท.วิทยา สับประสาน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล บนถนนสายเอเชีย 41ฝั่งขาล่องใต้ใกล้สี่แยกบ้านวิสัย หลัก กม.ที่ 21 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จึงนำกำลังตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรฯหน่วยอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตเมือง และเขตสวี รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุมีรอยเลือดเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนาย กิตติศักดิ์ สมศรี อายุ 33 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 45/3 หมู่ 8 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมไหล่ทาง นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดลายสีฟ้าขาว มีเลือดไหลออกจากหูและบริเวณท้ายทอยเต็มพื้นถนน อาสากู้ภัยกู้ชีพนำผ้ามาคลุมปิดร่างไว้ ห่างกันเล็กน้อยพบรถจักรยายนต์ ฮอนด้า รุ่นซุปเปอร์คลับ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของผู้เสียชีวิตล้มคว่ำอยู่บนพื้นดินริมทาง สภาพมีร่องรอยถูกชนพังเสียหายทั้งคัน มีรองเท้าแตะช้างดาว กระเป๋าสะพายใส่ของใช้ส่วนตัว และแกงถุงตกอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วย

ส่วนรถคู่กรณีจอดอยู่ห่างจากร่างผู้เสียชีวิตด้านช่องทางขวาสุดไปประมาณ 25-30 เมตร เป็นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำทะเบียน 7 กก 6120 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายนรสิงห์ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดสิงห์บุรี พาครอบครัวมาจากจังหวัดระยอง มุ่งหน้าอำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยก เห็นผู้เสียชีวิตขับรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณแยก แต่เมื่อขับมาใกล้ๆเห็นรถจักรยายนต์ขอบพรวดออกมาเลย ตนเองพยายามจะเบี่ยงหลบแต่จักรยานยนต์คันดังกล่าวแถออกมาขวางอีก จึงหลบไม่พ้น

จากการสอบถามนายสมคิด สมศรี อายุ 67 ปี ผู้เป็นพ่อผู้เสียชีวิต และคนรู้จัก ได้ความว่า เมื่อเช้าวันเดียวกันผู้เป็นพ่อได้เก็บมะเขือไปฝากนายกิตติศักดิ์ (ผู้เสียชีวิต) พักอาศัยอยู่ใกล้โรงเรียนค่ายลูกเสือ เหมือนเป็นลางสังหรณ์บอกเหตุ ลูกชายได้ยกมือไหว้พ่อทั้งที่ไม่ค่อยได้ไหว้เลย แต่ผู้เป็นพ่อไม่เอะใจอะไร จนช่วงเย็นลูกชายขับรถจักยานยนต์กลับจากไปซื้อแกงถุงเป็นกับข้าวมือเย็นแต่มาเกิดเหตุชนกับรถยนต์เสียชีวิต

 

ด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.บ้านวิสัยเหนือ เบื้องต้นอยู่ในระหว่างเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ใกล้จุดเกิดเหตุ พร้อมนำคู่กรณีสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่