ลูกสาวติดเหล้า ขายที่ดินเกือบหมด ทุบตีขู่ฆ่าแม่วัย 80 ต้องหนีตายไปหาญาติ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ หวั่นบั้นปลายชีวิตไม่มีที่อยู่อาศัย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางกาญจนา อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ว่ามีญาติอายุ 80 ปี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง โดนลูกสาววัย 44 ปี ทำร้ายทุบตีเกือบทุกวันได้รับบาดเจ็บทนไม่ไหวจนต้องทิ้งบ้านหนีตายมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยกันนานนับเดือน นอกจากนี้ ลูกสาวคนดังกล่าวยังประกาศขายที่ดินทำกินจนเกือบหมด กลัวว่าจะไม่มีบ้านให้อยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต จึงวอนให้หน่วยงานรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือด้วย
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบนางกาญจนา โดยมียายวัย 80 ปี นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนภายในร้านค้าขายของชำของนางกาญจนา ยายวัย 80 ปี เปิดเผยว่า ตนมีบุตร 2 คน หลังจากสามีเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวเมื่อเกือบสิบปีก่อน โดยทิ้งมรดกทรัพย์สินเป็นบ้าน 1 หลัง ปลูกบนที่ดิน 1 แปลง จำนวน 11 ไร่ 2 งาน ต่อมาลูกชายคนโตได้แบ่งที่ดินออกเป็น 2 แปลง แปลงละ 5 ไร่ 3 งาน แบ่งให้น้องสาว 5 ไร่ 3 งาน หลังจากนั้นไม่นานลูกชายได้ขายที่ดินและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางกาญจนา ขอความช่วยเหลือญาติวัย 80
ยาย กล่าวต่อว่า จากนั้นลูกสาวได้เดินทางไปใช้ชีวิตในภาคใต้ ปล่อยให้ตนอยู่เพียงลำพัง ช่วงแรกไปๆมาๆ อยู่บ้าง แต่เมื่อ 2 ปีก่อนได้กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าลูกสาวเป็นคนก้าวร้าว อยู่ไม่นานก็แบ่งขายที่ดินหลังบ้านจำนวน 2 ไร่ เหลือ 3 ไร่ 3 งาน เงินที่ได้มาตนไม่เคยได้ใช้สักบาทเดียว ต่อมาลูกสาวดื่มเหล้าขาวทุกวันจนติด พูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายคนมีอาการทางจิต ทำลายสิ่งของภายในบ้าน ทำร้ายร่างกาย บีบคอ บีบจมูก ตะคอกใส่แม่บอกว่าจะเอาให้ตายเลย ไม่เอาไว้แล้ว กูเกลียดมึง มึงไม่ใช่แม่กู และยังเคยเอาผ้าที่แช่น้ำในกะละมังเทรดศีรษะด้วย ทำแบบนี้หลายครั้งพร้อมกับด่าคำหยาบคาย ตนจึงแจ้งตำรวจให้มาควบคุมตัวและส่งโรงพยาบาล แต่ไม่นานก็กลับมาทุบตีตนอีก
ยาย กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 6 ก.ย. ลูกสาวได้ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าฟาดที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บมีรอยช้ำเลือด หลังจากนั้นก็กระชากมีดจะแทง ตนจึงวิ่งหนีมาหานางกาญจนา ไกลเกือบ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นญาติมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จนทุกวันนี้ก็ยังไม่กล้ากลับบ้านกลัวถูกลูกสาวฆ่าตาย
ยาย กล่าวต่อว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาลูกสาวได้ประกาศขายที่ดินที่ยังเหลืออยู่ 1 ไร่ 3 งาน พร้อมบ้าน 1 หลัง ตนจึงเดินทางไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมและศาลจังหวัดชุมพร เพื่อใช้สิทธิ์ผู้เป็นมารดาระงับการซื้อขายที่ดินแปลงที่เหลือปัจจุบัน ต่อมาศาลมีหนังสือให้ระงับการทำธุรกรรมไว้ก่อน 1 เดือน กระทั่งเมื่อเช้าวันนี้(4 ต.ค.) ตนเดินทางไปสำนักงานที่ดินอำเภอสวี เพื่อนำคำสั่งศาลยื่นต่อเจ้าหน้าที่แต่ก็ช้าไปแล้ว
ด้านนางกาญจนา กล่าวว่า อยากให้มีหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ตนเป็นเพียงญาติทางสะใภ้ ก่อนหน้านี้ช่วยเหลือด้านเงินและการเดินทางไปทุกอย่าง แต่ทำได้จำกัด เพราะมีภาระต้องดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียง สงสารญาติที่ต้องมาอยู่กับลูกสาวที่จะทำร้ายแม่ตัวเอง กลับบ้านก็ไม่ได้ เพราะลูกสาวขู่ไว้ว่าจะฆ่าให้ตาย มีที่ดินก็ขายเกือบหมด เมื่อเช้า(4 ต.ค.)จะไประงับเรื่องการซื้อขายก็ไปเจอลูกสาวกับนายหน้าอยู่บนสำนักงานที่ดินแล้ว แต่ไม่รู้ผลจะออกมาอย่างไร