แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผู้ช่วยโฆษก ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประจำวัน (18 ก.พ. 64) กล่าวถึง การระบาดกลุ่มก้อน (Cluster) เชื่อมโยงตลาดพรพัฒน์ จังหวัดปทุมธานี ได้ตรวจคัดกรองเชิงรุกไปแล้ว 4 พันกว่าคน โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขรายงานข้อมูล พบผู้ติดเชื้อยืนยันจำนวน 437 ราย หรือคิดเป็น 4% โดยจากนี้ไปจะมีการคัดกรองเชิงรุกให้ได้วันละ 1 หมื่นราย ซึ่งอาจจะทำให้เปอร์เซ็นการพบผู้ติดเชื้อลดลง
โดยทางจังหวัด รวมกับกรมควบคุมโรคหาเปอร์เซ็นต์เหล่านี้ เพื่อประเมินถึงความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และนำไปสู่มาตรการเตรียมความพร้อมในการติดตามสอบสวนโรค ไม่เพียงแค่พื้นที่ปทุมธานีเท่านั้นว่าผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเดินทางไปที่ใดบ้าง ซึ่งตอนนี้มีการกระจายไปแล้ว 10 จังหวัด
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อ การที่ตลาด หรือชุมชน พบการติดเชื้อทำให้เกิดการเรียนรู้ เพราะว่าตลาด เป็นหัวใจสำคัญของชุมชน เพราะฉะนัั้นเราไม่สามารถหลีกเลี่ยง หรือปิดตลาดได้ ซึ่งสิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ พื้นที่ตลาดหรือชุมชนจะต้องมีการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย มีมาตรการคัดกรองให้แม่นยำ หากพบผู้ติดเชื้่อต้องรายงานอย่างทันท่วงที
อ่าน : โควิด วันนี้ 18 ก.พ. ในไทยเพิ่ม 150 ราย ติดเชื้อสะสม 25,111 ราย
สำหรับมาตรการผ่อนคลายนั้น วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมเฉพาะกิจ มีการทบทวนพิจารณาทั้ง กิจการ กิจกรรม รวมทั้งสีของพื้นที่ด้วย โดยจะปรับสีของจังหวัดดังนี้
– พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) จากเดิม 35 จังหวัด จะเสนอให้ปรับเป็น 54 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท นครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบูรณ์ สุโขทัย สุราษฎร์ธานี อุทัยธานี กระบี่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง นครพนม ชัยภูมิ นครศรีธรรมราช น่าน บึงกาฬ ปัตตานี พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร
แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี อ่างทอง สระแก้ว จันทบุรี สิงห์บุรี ตราด ปราจีนบุรี และ ลพบุรี
– พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิม 17 จังหวัด จะลดเหลือ 14 จังหวัด กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ระนอง ชลบุรี ระยอง ชุมพร สงขลา ยะลา และนราธิวาส
– พื้นที่ควบคุมสูง (สีส้ม) จากเดิม 20 จังหวัด จะลดลงเหลือ 8 จังหวัด ได้แก่ กทม. สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก และราชบุรี
– พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดง) มี 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร
อย่างไรก็ตาม การปรับระดับพื้นที่ผ่อนคลาย กิจการ กิจกรรม โดยทาง EOC กระทรวงสาธารสุข มีการประชุมมาก่อนหน้านี้แล้ว และมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีแนวโน้มดีขึ้น โดยสถานการณ์อยู่ในระบบที่ควบคุมได้ ซึ่งมาตรการผ่อนคลายดังกล่าวนี้ จะต้องเข้าสู่ศบค.ใหญ่ ในวันจันทร์ (22 ก.พ. 64)
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายในการบริการจัดการให้วัคซีนโควิด-19 กับประชาชนโดยมี นโยบายสำคัญให้ทุกคนในประเทศไทย ไม่เพียงแค่ชาวไทยแต่รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ ได้เข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีเป้าหมายในการให้ได้แก่ 1. เพื่อลดอัตราการป่วยและตาย 2. เพื่อปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ 3. เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดการกระจายวัคซีนสำรอง สำหรับฉุกเฉินอีกด้วย
อ่าน : ผู้ว่าฯ ปทุม สั่ง ล็อกดาวน์ 9 จุด บริเวณ ตลาดพรพัฒน์ – ตลาดสุชาติ
ในช่วงท้าย ได้ตอบคำถามถึงกรณีหากมีเอกชนที่พร้อมจะนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้ประชาชน สามารถทำได้หรือไม่นั้น พญ.อภิสมัย กล่าวว่า พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจ บริการ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญกับภาคเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งในบางพื้นที่ เช่น จังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ถ้าจะรอนั้นจะสามารถจัดหาวัคซีนได้เองหรือไม่ หากคิดค้นแล้วว่ามีมาตรการที่ปลอดภัย
“ทางศบค.ก็เห็นด้วยที่จะให้ภาคเอกชน สามารถจัดหาวัคซีนเองได้ แต่สิ่งสำคัญคือ ใครจะเป็นคนที่จัดหาได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ย้ำชัดว่า จะต้องเป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน โดยมีลักษณะเป็นโรงพยาบาล มีแพทย์ และบริการในสถาวะฉุกเฉิน รวมถึงวัคซีนที่จะนำเข้านั้น จะต้องนำเสนอถึงที่มาที่ไปได้ จะต้องขึ้นทะเบียนกับทาง อย. กระทรวงสาธารณสุข ว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย” พญ.อภิสมัย กล่าว
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand’s business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/
Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)