แจงโบสถ์วัดไชยราชอยู่พื้นที่ป่า – นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีชาวบ้าน ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย ร้องเรียนหน่วยงานรัฐ ขอให้แก้ไขปัญหากรณีวัดไชยราช ในเขต ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร สร้างอุโบสถใช้งบประมาณกว่า 25 ล้านบาท สร้างเสร็จนานกว่า 13 ปี แต่ไม่ได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา ทำให้ไม่สามารถประกอบพิธีทางศาสนา เนื่องจากพื้นที่วัดตั้งอยู่ในเขต อ.ปะทิว แต่จุดที่สร้างโบสถ์อยู่ในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จากการหารือสำนักงานพระพุทธศาสนาทั้ง 2 จังหวัด เบื้องต้นพื้นที่สร้างโบสถ์อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ จึงทำหนังสือถึงสำนักงานป่าไม้เขต 10 จ.เพชรบุรี และเขต 11 จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้รังวัดแนวเขตจุดที่สร้างโบสถ์
หากพบว่าโบสถ์อยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้เขตใด หรือรังวัดแล้วพบว่าโบสถ์สร้างในเขตป่าไม้ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ วัดไชยราชต้องทำหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) จากนั้นสำนักงานพุทธฯ จะทำหนังสือถึงป่าไม้เขต เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่ต่อไป หากอธิบดีกรมป่าไม้อนุญาตแล้ว พศจ.ประจวบฯ จะทำหนังสือถึง พศจ.ชุมพร ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา เพื่อให้โบสถ์สามารถใช้ประกอบพิธีทางศาสนา โดยขยายพื้นที่เดิมของวัด 6 ไร่กับพื้นที่ในเขตป่าไม้อีกประมาณ 10 ไร่ ในจุดที่สร้างโบสถ์บริเวณเนินภูเขา
นายประมวลกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุที่มีการแก้ไขปัญหาล่าช้า หลังจากตัวแทนวัดและ ชาวบ้านร้องเรียนมานาน พบว่ามาจากไม่มีหน่วยงานใดรับเป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการเขตแดนเพื่อให้มีข้อยุติ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเขตแดนทับซ้อนมีข้อพิพาทระหว่าง หน่วยงาน 2 จังหวัดในพื้นที่ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย กับ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว ที่ยืดมานานกว่า 20 ปี ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัด รับทราบปัญหาแล้ว และเตรียมดำเนินการหาทางแก้ไข