GCAP แตกไลน์ธุรกิจ ควงพันธมิตร ศึกษาความเป็นไปได้สร้างสนามบินเกาะเต่า หวังใน 3 ปี ดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้นเป็น 25% รายได้ดอกเบี้ยรับ 75% จากปัจจุบันรายได้ 95% มาจากดอกเบี้ยรับ นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) กับกลุ่มพันธมิตรเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินที่เกาะเต่า จังหวัดชุมพร เพราะบริษัทเล็งเห็นว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับสู่สภาวะปกติ ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างโอกาสให้อย่างมากเพราะการท่องเที่ยวในประเทศไทย ยังได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกและจากคนไทย “เกาะเต่าเป็นอีก 1 ในจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงนักท่องเที่ยวไทย ปัจจุบันการเดินทางไปยังเกาะเต่า ใช้เวลาค่อนข้างนาน การเดินทางไม่ค่อยสะดวกมากนัก หากมีสนามบินจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น และเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจได้อีกด้วย โดยคาดว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดจะสามารถใช้สนามบินได้ประมาณ 1 ปีหลังจากนี้” นายอนุวัตรกล่าว การศึกษาในเรื่องของการสร้างสนามบินในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทที่มีศักยภาพ มีความพร้อมและต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยบริษัทฯในฐานะผู้ให้บริการทางด้านสินเชื่อก็พร้อมที่จะสนับสนุนลูกค้า หรือจะเป็นพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจรองรับสถานการณ์วิกฤตที่เชื่อว่าจะดีขึ้นหลังจากนี้ ด้านการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ กลุ่มเกษตรกร จะยังเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท โดยสัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อส่วนบุคคลในปัจจุบันอยู่ในระดับร้อยละ 75 และ 25 ตามลำดับ โดยบริษัทตั้งเป้าใน 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนจากดอกเบี้ยรับจาก 95% เป็นรายได้จากธุรกิจอื่นมากขึ้นที่ 25% และรายได้ดอกเบี้ยรับที่ 75% เพื่อเสริมให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง จะดีกว่าครึ่งปีแรก เป็นไฮซี่ซั่นธุรกิจ ยอดสินเชื่อตามฤดูกาลจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังของทุกปีไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4 เชื่อว่าจะหนุนยอดสินเชื่อปีนี้เข้าเป้าที่ 1 พันล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรยังเป็นกลุ่มที่มีโอกาสสร้างการเติบโตให้กับบริษัท อย่างไรก็ตาม การปรับตัวไปตามทิศทางและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ หลังจากนี้บริษัทนอกเหนือจากจะให้ความสำคัญมากขึ้นในเรื่องการขยายธุรกิจไปในหลายๆ มิติ เพื่อสร้างความสมดุลทางด้านรายได้แล้ว กลุ่มลูกค้าปัจจุบันบริษัทก็พร้อมจะสนับสนุนให้ลูกค้ามีความเข้มแข็งทางด้านธุรกิจอีกบริษัทต้องปรับตัวเพื่อรักษาธุรกิจในทุกๆมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาระดับรายได้ การลดรายจ่าย การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น บริษัทมองหาโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจในสถานการณ์ที่แม้ว่าจะเป็นวิกฤตอย่างปัจจุบัน โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ศึกษาการสร้างรายได้ในด้านอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างสมดุลของโครงสร้างรายได้ให้มากขึ้น รวมถึงการเปิดรับพันธมิตรใหม่ที่สนใจจะเข้าร่วมทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆ |