การเมือง
“กรณ์” ปลุกคนชุมพรเลือกส.ส.พรรคกล้าเปลี่ยนชุมพรใน 100 วัน
วันเสาร์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565, 17.16 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
“กรณ์” ควง ผู้กำกับหนุ่ยขึ้นเวทีปราศรัย ลั่นถ้าได้รับเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพรจะเปลี่ยนชุมพรภายใน 100 วัน
โค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร วานนี้ (14 มกราคม 2565) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคพรรคกล้า พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ หรือผู้กำกับหนุ่ย ผู้สมัครหมายเลข 5 และทนายลิขิต ศรีชาติ ได้พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 1 อ.เมือง, อ.สวี และได้ขึ้นเวทีปราศรัย ณ บริเวณ เทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังอย่างเนืองแน่น
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ตนได้เห็นความตั้งใจของ พ.ต.อ.ทศพล ที่จะทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวชุมพรอยากเต็มกำลัง โดยได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือ รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ขอฝากประชาชน เขต 1 ขอให้เลือกคนที่พร้อมเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงทวงคืนนโยบายของรัฐ ที่รับปากกับประชาชน ขอยืนยันว่า พรรคกล้าพร้อมที่จะผลักดันนโยบายที่สำคัญต่อปากท้องประชาชน เพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคกล้า ที่จะร่วมต่อสู้และอยู่เคียงข้างเพื่อปากท้องชาวจังหวัดชุมพร
ด้านพ.ต.อ.ทศพล กล่าวว่า การที่ตนตัดสินใจลาออกจากราชการตำรวจ ก็ด้วยความมุ่งมั่นกลับมารับใช้พี่น้องประชาชน และเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดของตัวตัวเอง โดยมีความตั้งใจเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องชาวจังหวัดชุมพร และเชื่อมั่นว่า ด้วยทีมงานที่เข้มแข็งของพรรคกล้า จะสามารถผลักดันนโยบายที่สำคัญได้แก่ การท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรที่มีชายหาดที่ยาวถึง 222 กิโลเมตร ในพื้นที่ อำเภอปะทิว อำเภอเมือง อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน อำเภอละแม เพื่อนำเม็ดเงินที่เกิดจาการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมาพัฒนาจังหวัดชุมพร และจะผลักดันให้ทำซุ้มประตูเมืองให้สมกับเป็นเมืองประตูสู่ภาคใต้ พร้อมกันนี้ก็จะจัดทำศูนย์อาหารขึ้นในบริเวณเดียวกัน เพื่อนำสินค้าและอาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพรมาจำหน่ายในศูนย์อาหารด้วย นอกจากนี้จะเร่งผลักดันการจดทะเบียน GI พืชกระท่อม ให้เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของชาวจังหวัดชุมพร
“ผมจะทำทุกโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 100 วัน หากได้รับการเลือกตั้ง วันที่ 16 มกราคม เลือกพรรคกล้า เบอร์ 5 ชุมพรต้องกล้าเปลี่ยน” ผู้กำกับหนุ่ยย้ำ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่